ลิลิตโองการแช่งน้ำโคลงห้า หรือประกาศโองการแช่งน้ำ



         ลิลิตโองการแช่งน้ำบางทีเรียกว่า ประกาศโองการแช่งน้ำ หรือประกาศแช่งน้ำโคลงห้า หนังสือเรื่องนี้เป็นวรรณคดีเรื่องเดียวในรัชสมัยสมเด็จพระรามา ธิบดีที่ ๑ (พระเจ้าอู่ทอง) ที่มีอยู่ในปัจจุบันและต้นฉบับจารึกเป็นตัวอักษรขอม  สันนิษฐานว่าผู้แต่งคงจะเป็นพราหมณ์ผู้กระทำพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา หรือพระราชพิธีศรีสัจจปานกาล ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ พระราชพิธีนี้เป็นพระราชพิธีที่ข้าราชการทหาร พลเรือนและเจ้าประเทศราช แสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ เป็นพระราชพิธีในราชสำนักขอมอันมีอินเดียเป็นต้นเค้า ในสมัยรัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างพระแสงศรปลัยวาต พระแสงศรอัคนิวาต  และพระแสงศรพรหมมาสตร์ขึ้น และใช้พระแสงศรทั้ง ๓ องค์นี้ แทงน้ำตอนท้ายบทสรรเสริญเทพเจ้าแต่ละองค์

ผู้แต่ง : 
ไม่พบหลักฐานว่าโองการแช่งน้ำแต่งเมื่อไร? จึงหาหลักฐานไม่ได้ว่าใครแต่ง? แต่สำนวน ภาษา ตลอดถึงระบบความเชื่อที่มีอยู่ในเนื้อความ ล้วนเป็นพยานว่าเป็นวรรณคดีเก่าแก่ก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยา
ที่กล่าวกันทั่วไปว่าเป็นวรรณคดียุคสมเด็จพระรามาธิบดีหรือพระเจ้าอู่ทอง กษัตริย์ผู้ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาขึ้นใหม่เมื่อ พ.ศ. 1893 เป็นเพียงสันนิษฐานจากพระนาม “สมเด็จพระรามาธิบดี” ที่มีแทรกอยู่ในร่ายของโองการแช่งน้ำ
แต่นั่นไม่ใช่หลักฐานว่าเพิ่งแต่งขึ้นใช้ในพิธีถือน้ำฯในยุคนั้น และไม่ได้หมายความว่าสมเด็จพระรามาธิบดีทรงพระราชนิพนธ์ด้วยพระองค์เอง เป็นแต่ยืนยันมั่นคงว่าโองการแช่งน้ำความนี้มีใช้แล้วในยุคสมเด็จพระรามาธิบดี และเพราะเป็นของศักดิ์สิทธิ์ในพิธีกรรมสำคัญอย่างยิ่งของราชสำนัก จึงยึดถือเป็นแบบแผนสืบมาโดยไม่แตะต้องแก้ไข
ดังนั้น จึงสันนิษฐานว่าแต่งในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ้าอู่ทอง)

ประวัติ :
ต้นฉบับเดิมที่เหลืออยู่เขียนด้วยอักษรขอม ข้อความที่เพิ่มขึ้นในรัชกาลที่๔ ตามหลักฐานซึ่งรัชกาลที่ ๕ ทรงยืนยันไว้ในพระราชพิธีสิบสองเดือน คือ "แทงพระแสงศรประลัยวาต" "แทงพระแสงศรอัคนิวาต" และ "แทงพระแสงศรพรหมมาสตร์"

ทำนองแต่ง :
มีลักษณะเป็นลิลิต คือ มีร่ายกับโคลงสลับกัน ร่ายเป็นร่ายโบราณ ส่วนโคลงเป็นโคลงแบบโคลงห้าหรือมณฑกคติ ถ้อยคำที่ใช้ส่วนมากเป็นคำไทยโบราณ นอกจากนั้นมีคำเขมร และบาลี สันสกฤต ปนอยู่ด้วย และคำสันสกฤตมีมากกว่าคำบาลี

ความมุ่งหมาย :
ใช้อ่านในพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาหรือพิธีศรีสัจปานกาล ซึ่งกระทำตั้งแต่รัชกาลสมเด็จพระเจ้าอู่ทองสืบต่อกันมาจนเลิกไป เมื่อประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบบประชาธิปไตย ใน พ.ศ. ๒๔๗๕




แหล่งที่มา : http://pspreaw.wixsite.com/thailandliterature/untitled-c245q

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องย่อลิลิตโองการแช่งน้ำ

คุณค่าของหนังสือ