ฉันทลักษณ์จากสองฝั่งโขง คำศัพท์และสำนวนภาษา


ต้นฉบับโองการแช่งน้ำ เขียนอักษรลงบนสมุดข่อยที่พับเป็นเล่มขนาดยาว การเขียนอักษรจึงเรียงเป็นวรรคๆตามยาวจากซ้ายไปขวา ไม่ได้จัดเป็นรูปโคลงกลอนอย่างปัจจุบัน


สมุดข่อยโองการแช่งน้ำฉบับต่างๆที่เหลือตกทอดสืบมาถึงปัจจุบัน (เก็บรักษาไว้ในหอสมุดแห่งชาติ)

          รวมทั้งมีการคัดลอกสืบเนื่องกันมายาวนานมากเกือบพันปี ทำให้วิปลาสคลาดเคลื่อนทั่วไป เป็นเหตุให้มีข้อพิศวงสงสัยทั้งรูปคำและรูปฉันทลักษณ์
          โองการแช่งน้ำ แต่งเป็นร่ายกับโคลง สลับกันตามเนื้อความของโองการ
          ร่าย เป็นกลอนแบบหนึ่ง มีเค้าต้นจากคำคล้องจองของผู้คนชนเผ่าเหล่ากอตระกูลไทย-ลาว ตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ก่อนรับศาสนาจากชมพูทวีป เรียกกลอนร่ายหรือภาษาร่าย ถือเป็นภาษาศักดิ์สิทธิ์ของหมอผีหรือหมอขวัญ
          โคลง ก็เป็นกลอนอีกแบบหนึ่ง เรียกกลอนลำ คำกลอนประเภทนี้อาศัยจังหวะถ้อยคำและระดับเสียงสูงเสียงต่ำเป็นหลักล้วนๆ โดยไม่ยึดถือสัมผัสคล้องจองอย่างกลอนเพลงของภาคกลาง
          ดังมีร่องรอยอยู่ในคำพูดประจำวันของประชาชนตระกูลไทย-ลาวกลุ่มอีสาน ลื้อ และลาว มีตัวอย่างอยู่ในคำคมหรือภาษิตที่เรียกกันว่า “ผญา”  นานเข้าก็พัฒนาเป็นกลอนลำไร้สัมผัส กระทั่งมีฉันทลักษณ์เป็นโคลง ดังมีตัวอย่างอื่นๆอีก เช่น หนังสือวรรณคดีโบราณของอีสานและลาวเรื่องท้าวฮุ่งฯ
          นักค้นคว้าสมัยหลังๆพากันเรียกฉันทลักษณ์ประเภทนี้ด้วยภาษาชั้นสูงว่า โคลงมณฑกคติ เพราะเข้าใจไปว่าได้รับแบบแผนมาแต่อินเดีย
          แต่แท้จริงเป็นกาพย์กลอนสองฝั่งโขง หรือเรียกภาษาปากว่าโคลงลาว หรือโคลงห้า ที่เป็นต้นพัฒนาการของโคลงดั้นและโคลงสี่ (สุภาพ)ในปัจจุบัน แม้ท้าวฮุ่งฯที่ได้รับยกย่องให้เป็นมหากาพย์ของภูมิภาค ก็แต่งด้วยฉันทลักษณ์โคลงห้าหรือโคลงลาวทั้งหมดเกือบ 5,000 บท
          ภาษาในโองการแช่งน้ำเต็มไปด้วยศัพท์พื้นเมือง มีคำบาลี-สันสกฤตและเขมรอยู่น้อย ถ้อยคำและสำนวนโวหารเป็นอย่างเดียวกับภาษาประจำวันของชาวบ้านสองฝั่งโขง ถ้าอ่านเปรียบเทียบจะพบว่าใกล้เคียง และสอดคล้องกับสำนวนภาษาในพงศาวดารล้านช้าง รวมทั้งจารึกต่างๆบางหลัก
          การที่ราชสำนักมีพิธีกรรมสำคัญอันเกี่ยวกับความมั่นคงของราชอาณาจักร โดยใช้โองการแช่งน้ำเป็นหลักในการสาธยาย หรือสาปแช่งผู้คิดคดทรยศ ย่อมเป็นพยานยืนยันว่าในราชสำนักมีความเป็นมาใกล้ชิดอย่างยิ่งจนเกือบเป็นเนื้อเดียวกันกับสังคมและวัฒนธรรมบริเวณสองฝั่งโขงที่มีรัฐสมัยต่อมาเรียกว่าล้านช้างกับเวียงจัน





แหล่งที่มา : http://www.sujitwongthes.com/สุจิตต์ วงษ์เทศ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องย่อลิลิตโองการแช่งน้ำ

คุณค่าของหนังสือ

ลิลิตโองการแช่งน้ำโคลงห้า หรือประกาศโองการแช่งน้ำ